Zonda Revolucion ใช้โครงสร้างแซสซีเป็นแบบ Carbon-Titanium และห่อหุ้มด้วยตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์อีกที ทำให้น้ำหนักรถเปล่าเหลือเพียง 1,070 กิโลกรัมเท่านั้น (เบากว่า Mazda MX-5) ตัวรถออกแบบตามหลักแอร์โรฯ กันชนหน้า ติดตั้งลิ้นหน้าและปีกเสริมแรงกด 3 ชั้น ขนาดใหญ่ มีช่องลมในหลายๆ จุด ทั้งด้านข้าง และบนหลังคา ให้เข้าไประบายความร้อนเครื่องยนต์ได้เต็มที่ ด้านท้ายมีสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ พร้อมระบบ DRS (Drag-Reduction-System) แบบรถแข่ง F1 และชุดท่อไอเสียไทเทเนียม คำรามเสียงลั่นทั้งสนามแข่ง
ภายในห้องโดยสาร รีดน้ำหนักด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยมีเอกลักษณ์ ด้วยเข็มวัดรอบเครื่องยนต์ไว้ตรงกลาง มีปุ่มควบคุมด้วยกัน 4 ปุ่ม คือ ปุ่มสีขาว Radio วิทยุไว้สื่อสารกับทีมงาน, ปุ่มสีเขียว Menu สำหรับตั้งค่าจอบนหน้าปัดดิจิตอล, ปุ่มสีฟ้า ไฟ Flash ไว้สำหรับขอทางเวลาต้องการแซง, ปุ่มสีแดง เปิด-ปิด ระบบ DRS ของปีกท้าย และลูกบิดล่างสุด สำหรับตั้งค่า Traction Control ปรับได้ 12 ระดับ เบาะนั่งเป็นแบบ Bucket Seat คาร์บอนไฟเบอร์หุ้มวัสดุหนังแท้ กับ Alcantara ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด พร้อมโครงเหล็ก Roll Cage ปกป้องคนขับ
เครื่องยนต์รหัส M120 แบบ V12 6.0 ลิตร พัฒนาโดย Mercedes-AMG สร้างเพื่อ Pagani โดยเฉพาะ โดยมีการปรับแต่งให้กำลังมากถึง 800 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิด 730 นิวตัน-เมตร ที่ 5,800 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 ใช้เวลาเพียง 2.6 วินาที ความเร็วสูงสุด มากกว่า 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง เชื่อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Sequential เปลี่ยนเกียร์รวดเร็วใน 0.02 วินาที ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง และ self-locking differential
ระบบเบรกจากทาง Brembo เทคโนโลยีรถแข่ง F1 เป็นแบบ 4 CCMR จานคาร์บอน-เซรามิค 6 สูบ 380 มม. ทางด้านหน้า และหลัง 4 สูบ 380 มม. พร้อม ABS สวมพร้อมยางสลิค Pirelli P-Zero Corsa ขนาด 255/35/19 และหลังขนาด 335/30/20 ช่วงล่างเป็นแบบอิสระ 4 ล้อ Pull-Rod ส่วนสปริงและโช้คใช้ของ OHLINS แบบปรับระดับได้
Zonda Revolucion จะใช้ได้ในสนามแข่งเท่านั้น ผลิตออกมาเพียง 5 คัน เท่านั้น แต่ละคันจะแตกต่างกันไป ตามที่ลูกค้าสั่ง ด้วยราคามากกว่า $2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ