“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกโมโตจีพชาวฝรั่งเศสจาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี รั้งอันดับ 3 จากการซ้อมวันแรกของศึก เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ชี้อาการบาดเจ็บไม่ส่งผลต่อ “ความเร็ว” ขณะทีมเมทชาวอิตาเลียน ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี โดนธงเหลืองเล่นงานจนกดเวลาไม่ได้ ก่อนลุ้นควอลิฟายวันเสาร์นี้
ศึก โมโตจีพี 2022 สนาม 16 รายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 23-25 กันยายนนี้ ที่ โมบิลิตี้ รีสอร์ท โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลจากพายุที่พัดผ่านส่งผลให้ถูกปรับการซ้อมให้เหลือเพียง 1 ครั้งในวันศุกร์
โดยในการซ้อมครั้งแรกปรากฏว่า กวาร์ตาราโร เจ้าของรถแข่งหมายเลข 20 ลงไปทดลองเซ็ตติ้งสำหรับการแข่งขัน เพื่อทำให้กับการเลือกยางอย่างหนัก ก่อนจะกดเวลารั้งอันดับ 3 ของวันแรก ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 44.558 วินาที ตามหลัง แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนจ่าฝูงวันแรกเพียง 0.049 วินาทีเท่านั้น
ขณะที่ทีมเมทอย่าง มอร์บิเดลลี ออกสตาร์ทการซ้อมกับรถแข่ง M1 หมายเลข 21 ได้อย่างยอดเยี่ยม และมีความเร็วที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทว่าในการทำ “ฟลายอิ้ง แล็ป” ครั้งที่ 2 ช่วงท้ายการซ้อมกลับต้องเจอ “ธงเหลือง” ถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้ไม่สามารถทำเวลาต่อรอที่ดีที่สุดได้ โดยนักบิดอิตาเลียนรั้งอันดับ 16 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 45.065 วินาที ตามหลังหัวแถว 0.556 วินาที
กวาร์ตาราโร กล่าวหลังจบการซ้อมวันแรกว่า “วันแรกเราทำงานกันเข้มข้นมาก ความมเร็วของเราไม่เลวเลยทีเดียว แต่ผมขี่อยู่บนลิมิตตั้งแต่รอบแรก นั่นหมายความว่าช่องว่างให้เราปรับปรุงนั้นมีไม่มาก แต่เราก็ทำอย่างสุดความสามารถ และมันก็ค่อนข้างโอเค”
“แผลถลอกไม่ส่งผลต่อการลงซ้อมของผมในวันนี้ ตอนแรกมันจะแปลกๆ หน่อย เพราะมันเริ่มตกสะเก็ดเล็กน้อย แต่หลังผ่านไป 2-3 รอบ ก็ปรับตัวได้ และผมไม่อาการอะไรแม้จะเป็นการซ้อมที่ยาวนานเป็นพิเศษ รวมถึงอาการเจ็ตแล็กก็ไม่ได้กวนใจผมด้วย”
“เราต้องวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนว่าจะใช้ยางอะไรสำหรับการแข่งขัน ยางหน้าในตอนนี้ค่อนข้างลงตัวแล้ว แต่ยางหลังยังคงต้องทำงานกันต่อ ในวันแรกความเร็วของผมค่อนข้างโอเค และผมก็พร้อมแล้ว”
มอร์บิเดลลี กล่าวว่า “ผมค่อนข้างพอใจกับความเร็วในวันนี้ แต่มันยังไม่ใช่ผลงานที่ดีที่สุดของผม โชคไม่ดีที่ในการกดเวลาครั้งที่ 2 ของผม เราโดนหยุดไว้ด้วยธงเหลืองถึง 2 ครั้ง ทำให้ไม่สามารถทำเวลาต่อรอบที่ดีที่สุดได้ และพบว่าตัวเองอยู่ในอันดับ 16 แต่ผมคิดว่าตัวเองสามารถทำอันดับได้สูงกว่านี้”
“อย่างไรก็ตาม ความเร็วระหว่างการซ้อมของเราค่อนข้างดี และผมก็รู้สึกดีมาก ผมรู้ว่าด้วยเลย์เอาท์ของสนามนี้ เข้าทางกับสไตล์การขี่ของผมมากกว่าที่อื่นๆ เล็กน้อย เรายกระดับการเซ็ตติ้งรถแข่งขึ้นไปจากเดิม นั่นทำให้ผมก้าวขึ้นไปอีกขั้น ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งการลงไปทำ ฟลายอิ้ง แล็ป ครั้งที่ 2 ซึ่งเราโดนธงเหลืองหยุดเอาไว้”
ด้านนักบิดไทยอย่าง “เคเคซัง” เขมินท์ คูโบะ เจ้าของรถแข่งหมายเลข 81 จาก ยามาฮ่า วีอาร์46 มาสเตอร์ แคมป์ ทำความเร็วได้อย่างน่าพอใจ ก่อนพลาดล้มในช่วงต้นการซ้อม ส่งผลให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ รั้งอันดับ 28 ด้วยเวลา 1 นาที 53.422 วินาที ตามหลัง ออกุสโต้ เฟร์นันเดซ หัวแถว 2.929 วินาที
ศึก เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ จะแข่งขันรอบควอลิฟายในวันเสาร์ที่ 24 กันยายนนี้ ก่อนดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 นี้