เมื่อหนทางที่พอเป็นไปได้ของการแข่งขัน F1 ท่ามกลางวิกฤติไวรัสโคโรนา คือการจัดแบบระบบปิดและจำกัดคนเข้าสนาม แน่นอนว่ามีผลต่อเม็ดเงินอย่างไม่ต้องสงสัย โดย Forbes.com ได้วิเคราะห์เอาไว้น่าสนใจดังนี้

ปัจจุบัน F1 มีชื่ออยู่ในตลาดหุ้น Nasdaq มีมูลค่าทางการตลาดลดลงถึง 41% ตั้งแต่ต้นปี 2020 จากความไม่แน่นอนตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19

เป็นผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงมากกว่ากีฬาชนิดอื่น ๆ เนื่องจาก F1 ต้องเดินทางไปแข่งขันทั่วโลก และปกติแล้วในแต่ละกรังด์ปรีซ์จะมียอดผู้เข้าชมกว่า 200,000 คนตลอดทั้งสามวันคือ ศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์

ล่าสุด F1 กับ FIA ได้เตรียมแผนครั้งสำคัญสำหรับการเปิดฤดูกาล 2020 ที่ออสเตรียต่อด้วยสหราชอาณาจักร ซึ่งทั้ง 2 สนามยืนยัน 100% แล้วว่าจะจัดกันแบบระบบปิด

หลายฝ่ายมองว่าปัญหาดังกล่าวอาจกินเวลานานถึง 18 เดือนจากการคิดค้นวัคซีนป้องกัน เพื่ออย่างน้อยให้ผู้ที่เดินทางมาเข้าชมมีความมั่นใจมากขึ้นในความปลอดภัย

ทั้งนี้จากการสำรวจของ Stillman School of Business พบว่ากว่า 72% ของชาวอเมริกัน ตลาดสำคัญที่ F1 ต้องการเข้าไปขยายฐานกลุ่มแฟนคลับในอนาคต จะไม่เข้าร่วมชมกีฬาใด ๆ จนกว่าจะมีการคิดค้นวัคซีนสำเร็จ

ถึงแม้ประชาชนบางคนกลุ่มจะไม่สนใจกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา แต่ทางรัฐบาลนานาประเทศส่วนใหญ่ต่างใช้มาตรการควบคุมอย่างจริงจัง พร้อมทั้งไม่อนุญาตให้มีการจัดงานอีเว้นท์ที่เป็นการรวมกลุ่มคนมากมายเฉกเช่น F1 อย่างแน่นอน

การจัดแบบระบบปิดสนามนั้นมิได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อฝ่ายจัดการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังส่งต่อผู้ประกอบการธุรกิจรายอื่น ๆ ด้วยเช่น สายการบินการคมนาคม, โรงแรมที่พัก, ห้างสรรรพสินค้าร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง

ในสภาวะปกติทาง F1 จะได้ค่าธรรมเนียมจากเจ้าภาพประมาณ 602 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อฤดูกาล จากรายได้ทั้งหมดกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เฉพาะค่าขายบัตรเข้าชมก็สามารถสร้างรายได้กว่า 673 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว

แต่ปัจจุบัน F1 จำเป็นต้องลดค่าธรรมเนียมนี้ เนื่องต้องเปลี่ยนรูปแบบของการจัดงานใหม่ทั้งหมด มิเช่นนั้นทางเจ้าภาพแต่ละสนามจะไม่มีรายได้เพียงพอที่จะจัดได้

การลดค่าธรรมเนียมจัดการแข่งขัน คาดว่าจะส่งผลให้ F1 สูญเสียรายได้กว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

แต่ยังมีส่วนที่สำคัญที่ยังสามารถรักษาเอาไว้ได้ต่อไปคือ มูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่สูงถึง 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Greg Maffei ผู้บริหารกลุ่ม Liberty Media เจ้าของสิทธิ์ Formula 1 ระบุว่า การจัดการแข่งขันแบบระบบปิดส่งผลต่อรายได้อย่างเห็นได้ชัด เมื่อฤดูกาล 2019 ทีมสมาชิกฟอร์มูล่าวันทั้ง 10 ทีมได้รับส่วนแบ่ง 68% จากกำไรที่ F1 ทำได้ คิดเป็นยอดประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ยอดการทำกำไรตรงจุดนี้จะลดลงเหลือเพียง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (จาก 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2020 นั่นหมายความว่าทั้ง 10 ทีมจะได้รับเงินในส่วนนี้รวมกันเพียง 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น